วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 3 : Social Network กับนักเรียน และสังคมไทย



            สวัสดีค่าวันนี้วราปาก้าจะมาพูดถึง Social Network กับตัววราปาก้าเอง และ Social Network กับสังคมไทยค่ะ ไปดูกันเลย!!!






Social (adj.) มีความหมายว่า เกี่ยวกับสังคม Network (n.) มีความหมายว่า เครือข่าย ดังนั้น Social Network จะมีความหมายว่า "เครือข่ายสังคมออนไลน์" นั่นเองค่า




            Social Network ก็คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกัน ผ่านทางอินเตอร์เน็ตค่ะเป็นเว็บไซต์ช่วยให้คุณหาเพื่อนบนโลกอินเตอร์เน็ตได้ง่ายๆ และเรายังสามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา เพื่อแนะนำตัวเองได้อีกค่ะ โดยเลือกได้ว่าต้องการรู้จักกับใคร หรือเป็นเพื่อนกับใคร ก็ได้ ตัวอย่างของ Social Network เช่น Hi5, Facebook, MySpace.com, twitter เป็นต้นค่ะ







พฤติกรรมการใช้ Social Network ของคนไทยค่า



            ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้เลยค่ะ ว่าเราแทบบบบจะทุกคนเลยที่ใช้ Social Network โดยเฉพาะ Facebook เจ้าตัวนี้นี่แหละค่ะทำให้เรามีเพื่อนบนโลกอินเตอร์เน็ต บางทีอาจจะได้แฟนติดมาด้วยนะคะ อิอิ รู้ไหมคะว่าจำนวนผู้ใช้ Facebook ในประเทศไทยใช้มีมากเป็นอันดับ 9 ของโลก เท่ากับประเทศเยอรมนี โดยมีจำนวนผู้ใช้มากถึง 28 ล้านราย คิดเป็น 42% ของประชากรทั้งประเทศไทย  ส่วนอันดับ 1 ยังเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 180 ล้านราย(ปี พ.ศ.2557) ทุกคนคงทราบดีว่าเจ้า Facebook นี้ดียังไง,ใช้งานยังไง,สะดวกยังไง และทำไมถึงทำให้เรามีเพื่อนบนโลกอินเตอร์เน็ต และแฟนมาได้นะแกก เพราะว่ามีการแชท ซึ่งเป็นอะไรที่สะดวกในการติดต่อสื่อสารมากจริงๆค่ะ ทั้งยังมีการอัปโหลดรูปภาพ การแชร์สิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ,คำคม,วิดีโอ แล้วเพราะการแชร์นี่แหละค่ะทำให้เรารู้ความเคลื่อนไหวในวันหนึ่งๆได้ เพราะอาจจะมีเพื่อนเราใน Facebook บางคนแชร์ข่าวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งพอเราเป็นเพื่อนกับเขาใน Facebook เราก็จะสามารถเห็นได้ค่ะ         


            สำหรับตัววราปาก้านะคะ ได้เริ่มใช้ Social Network ครั้งแรกในช่วงสมัยป.5 หรือป.6 นี่แหละค่ะ ตอนนั้นก็ไม่ได้ใช้ทำอะไรมากค่ะ ก็ใช้แต่เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ คุยกับเพื่อน แล้วก็มาเริ่มใช้ Facebook ในช่วงประมาณ ม.1 หรื ม.2 ค่ะ ตอนนี้ Facebook นี่เป็นอะไรที่สำคัญกับตัววราปาก้ามากพอสมควรค่ะ เพราะจะไม่ค่อยได้ฟังข่าวค่ะ เลยได้รับข่าวสารบน Facebook นี่แหละค่ะ แล้วจะเป็นคนที่ชอบดูรูปที่สวยๆ อาร์ทๆ เวลาที่รู้สึกเบื่อๆ หรือต้องการกำลังใจ หรือแรงบันดาลใจค่ะ และใช้แชทคุยกับเพื่อนทั้งเรื่องส่วนตัว และงานกลุ่มค่ะ ทุกคนคงรู้ดีนะคะว่าการจะแชร์อะไรลงแต่ละที เราก็ต้องคิดพิจารณาให้ดีก่อน เพราะการที่เราพูดอะไรในทางเสียๆหายๆ ว่าบริษัทนี้ทำแบบนี้ แย่มาก ก็ต้องคิดดีๆก่อนค่ะ เพราะบางทีเราอาจจะผิดก็ได้นะคะ  หรือว่าโพสต์ข้อความแชร์ประจานว่า  ผู้หญิงคนนั้นไปแย่งสามีตัวเองมา ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงระวังจะโดนฟ้องนะคะ!!!  การแชร์แต่ละครั้งจะไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตเลยค่ะ  วราปาก้าเองก็คิดนะ เวลาจะแชร์อะไรแต่ละครั้งว่าโพสต์แบบนี้จะดีหรอ ใช้คำรุนแรงแบบนี้คงไม่ดี ไว้ใช้กับเพื่อนแล้วกัน อ้าวววว เห้ย ไม่ใช่แล้วค่า

   
           
             Social Network กับสังคมไทย อย่างที่ทราบกันแล้วว่ามีผู้ใช้ Social Network ในประเทศไทยอยู่เป็นจำนวนมาก และในอนาคตก็น่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ชอบสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลให้แก่กันค่ะ และอยากแสดงออกความมีตัวตนของตน เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อดีต  เมื่อก่อนคนเขียนบนผนังถ้ำ ผนังกำแพง ผนังวัด  ใบลาน และหนังสือ การรับรู้ของสิ่งที่คนเขียนอยู่ในวงจำกัด และขยายไปให้ผู้อื่นใช้เวลานาน แต่ตอนนี้คนเขียนบนโซเชียลเน็ตเวิร์คผ่าน โมบายแอปหรือเว็บแอปซึ่งรันอยู่บนอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงคนทั้งโลก ทำให้ส่ิงที่คนเขียนแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็วและมีพลังมาก

            Social network ได้เข้ามามีอิทธิพลกับทั้งด้านการศึกษา, ด้านธุรกิจ, ด้านศาสนาและวัฒนธรรม
  • ด้านธุรกิจ "สินค้าหลากหลายชนิดกระโดดมาใช้สังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือ" นั่นเพราะจำนวนสมาชิกที่มากมายอาจจะทำให้สินค้านั้นเป็นที่รู้จัก (ในกลุ่มเป้าหมาย) มากกว่าการลงโฆษณาผ่านสื่ออื่น และให้ผลตอบรับที่ดีกว่าโดยไม่ต้องเสียเงินซักบาทเลยด้วยซ้ำ เพราะอะไรล่ะ ทำไมถึงให้ผลตอบรับที่ดีกว่า นั่นเพราะ Social Network ได้ส่งผลอย่างมากต่อกลุ่มคนซึ่งเป็นผู้บริโภคค่ะ
  • ด้านการศึกษา การใช้ Social Network เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กไทย เช่น มีรุ่นน้องของบล๊อกเกอร์คนนึงพยายามสร้างสังคมออนไลน์ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมระบบการศึกษาไทยค่ะ ส่งเสริมให้เด็กไทยเขียนบทความกันมากขึ้น หรือมีการรวมกลุ่มเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ผ่านทาง Social Network (http://do.in.th/) นี้ ซึ่งเป็นไอเดียที่แจ่มแมวและเป็นที่น่ายินดีของประเทศไทยที่มีเด็กที่มีความสามารถและเสียสละเพื่อพัฒนาระบบการศึกษาหรือแม้แต่สังคมไทยต่อไปค่ะ เยี่ยมมากค่า 
  • ด้านศาสนา และวัฒนธรรม มีการใช้ Social Media มาช่วยจึงทำให้ศาสนาไม่หายสาปสูญไปเร็วค่ะ ยกตัวอย่างเช่น มีการใช้ Facebook เพื่อเผยแพร่บทความหรือคำพูดที่ให้ข้อคิดจาก ท่าน ว.วชิระเมธีค่ะ 



            วราปาก้าก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ อยากฝากถึงเรื่องการใช้ Social Network นิดนึงค่ะ ทุกอย่างมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย เพราะฉะนั้นการใช้สิ่งที่เข้าถึงง่ายแบบนี้จะต้องใช้วิจารณญาณ ระมัดระวังทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ว่าระแวงนะคะ แล้วก็ไม่หมกมุ่นมากเกินไปเพราะจะทำให้ผลการเรียนตก แถมสายตาจะไม่ดีเอาด้วยนะคะ สุดท้ายนะคะอย่าให้ Social Network เข้ามามีอิทธิพลกับจิตใจเรามากเกินไป เพราะเราคงจะกระวนกระวาย วันๆนึงไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย คอยคิดและกังวลไปทั่ว จนบางทีเราก็ควรจะอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง เอาใจใส่กับคนรอบข้างเรา คงจะมีความสุขกว่าเยอะเลย จริงไหมคะ? 




   









            

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
และรูปภาพสวยๆจาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น