วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 1 : เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน


Hi, everybody! Welcome to my world ! 

                          


              ณ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า "เทคโนโลยี" (Technology) มีมากมายเหลือล้นและได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของทุกคนเป็นส่วนใหญ่และส่วนมากเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นคือดิฉันเองค่ะ 


                 เทคโนโลยี(Technology) คือการนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติให้เกิดผลเป็นสิ่งที่วัดได้ หรือจับต้องได้เทคโนโลยีจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเทคโนโลยีจึงถูกกำหนดเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่มีราคาซื้อขายกันในตลาด      

 (ที่มา : หนังสือเอกสารวิชาการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : วิวัฒนาการและการจัดาการโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน)

                     เทคโนโลยีมี 4 ระดับ ได้แก่

1. เทคโนโลยีระดับเบื้องต้น  สามารถจัดหาได้ภายในประเทศ หรือสามารถพัฒนาขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่น ตู้เย็น โทรศัพท์ เป็นต้น

2. เทคโนโลยีระดับกลาง  มักต้องซื้อจากต่างประเทศ แต่สามารถพัฒนาได้ภายในประเทศ หากมีแผนการพัฒนาที่ต่อเนื่อง เช่น โทรทัศน์  เครื่องเสียง เป็นต้น

3. เทคโนโลยีระดับสูง ต้องซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ แต่สามารถใช้งานโดยคนไทย หากพัฒนาในประเทศจะต้องซื้อเทคโนโลยีแกนจากต่างประเทศ เช่น คอมพิวเตอร์  โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น

4. เทคโนโลยีระดับสูงมาก ต้องซื้ออุปกรณ์ และทักษะการใช้งานจากต่างประเทศ  เช่น ระบบคมนาคมสื่อสารขนาดใหญ่

       [ที่มา : หนังสือยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. -http://www.nstda.or.th) ]


                   สำหรับในชีวิตประจำวันของดิฉันนั้น มีเทคโนโลยีตั้งแต่ระดับเบื้องต้นจนถึงระดับสูงเลย มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง 


1.กระติกน้ำร้อน ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาก็เสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อน เพราะเคยอ่านเจอมาว่าถ้าดื่มน้ำอุ่นๆตอนเช้าจะทำให้จิตแจ่มใสและยังสมองปลอดโปร่งอีกด้วย คือดีมากค่ะ 





                                   (ที่มา:http://srv-live.lazada.co.th/p/image-88115-1-product.jpg)

2.ตู้เย็น พอเริ่มหิวก็จะเริ่มสำรวจหาอาหาร หรือกับข้าวในตู้เย็นที่คิดว่าจะรับประทาน เพื่อนำมาอุ่น หรือทำอาหารค่ะ
                        (ที่มา:http://www.vcharkarn.com/uploads/sites/6/2014/04/Refrigerator1.jpg)

3.ไมโครเวฟ พอได้อาหารที่อยู่ในตู้เย็นแล้วก็น้ำเอาเข้าไมโครเวฟค่ะ 



                         (ที่มา: http://img.tarad.com/shop/s/sbe/img-lib/spd_20110830233138_b.jpg)

เห็นอาหารที่อยู่ในไมโครเวฟแล้วก็หิ๊ววว...หิว เขียนบล๊อกเสร็จคงต้องจัดอาหารชุดใหญ่เลย~

4.โทรทัศน์ วันๆนึงก็ต้องดูต้องฟังข่าวสารกันบ้าง ให้ตามทันโลกกันหน่อย ทั้งข่าวอาชญากรรม ข่าวต่างประเทศ หรือแม้แต่ข่าวเทคโนโลยี  


                   (ที่มา:http://www.dmc.tv/images/0-articles/general_knowledge/400-i260612.jpg )

5.รถยนต์ อยากจะไปไหนก็ขอร้องคุณพ่อให้ไปส่งนี่แหละค่ะ เพราะทั้งสะดวก ส่วนตัว และสบาย ยกนิ้วให้เลยค่า



6.สมาร์ทโฟน(Smartphone) สิ่งนี้เลยค่ะ...สิ่งนี้ เป็นอะไรที่สำคัญกับตัวดิฉันเองมากถึงมากที่สุด บางช่วงก็ติดมาก บางช่วงก็แถบไม่หยิบมาใช้เลยค่ะ จะขอขยายความเยอะหน่อยนะคะ เนื่องจากส่วนใหญ่ทุกคนมีสิ่งนี้อยู่ในมือกันค่ะ สมาร์ทโฟน คืออะไร บางคนอาจจะยังไม่ทราบก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไปดูกันเลย! ฟิ้ววว  
สมาร์ทโฟน(Smartphone) เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาในมือของท่าน มีทุกอย่างที่คอมพิวเตอร์มี เช่น CPU ความจำภายในฮาร์ดดิสก์ (ซึ่งในโทรศัพท์เรียกว่า รอม) เป็นต้น หากต้องการติดตั้งระบบปฏิบัติการต่างๆ (ระบบ XP ในคอมพิวเตอร์ ระบบแอนดรอยด์ในโทรศัพท์) ผู้ใช้สามารถเลือกแอปพลิเคชั่นที่ต้องการใช้ได้ และสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ความอัจฉริยะใหม่ๆได้แน่นอนว่าปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์นั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้กับสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน ถือเป็นเหตุการณ์ปกติ เช่น หากใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ระบบต่างๆในคอมพิวเตอร์ก็จะเริ่มทำงานช้าลง การติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีพลังงานที่ไม่เพียงพอก็สามารถทำให้เครื่องค้างได้ หรือแม้กระทั่งการติดไวรัสก็สามารถส่งผลให้ระบบหรือข้อมูลเสียหายไปได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรสร้างความเคยชินในการบำรุงรักษา "โทรศัพท์" ของท่าน
(ที่มา:http://www.vivo.co.th/knowledge-about-smartphone.php?topic=2)

สำหรับดิฉันก็จะใช้สมาร์ทโฟน เพื่อติดต่อกับพ่อแม่ และเพื่อนๆค่ะ ทั้งผ่านการโทรออก และผ่านแอปพลิเคชั่น(Application)ทางระบบแอนดรอยด์ ก็คือ ระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยกูเกิ้ล (Google) ซึ่งเปรียบเหมือนกับระบบ XP ของคอมพิวเตอร์ ระบบแอนดรอยด์จัดได้ว่าเป็นระบบที่เปิดกว้างระบบหนึ่ง เพราะสามารถรองรับซอฟแวร์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังมีแอปพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างมากมาย เมื่อเทียบกับแอปเปิ้ลที่แอปพลิเคชั่นส่วนใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สำหรับปัจจุบัน ระบบปฏิบัติการที่สำคัญของสมาร์ทโฟนได้แก่ ระบบแอนดรอยด์ (Android) ระบบไอโอเอส (IOS) ของ Apple และระบบวินโดว์(Windows) (ที่มา: http://www.vivo.co.th/knowledge-about-smartphone.php?topic=4)

ส่วนแอปพลิเคชั่น(Application) ก็คือ โปรแกรมประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานบนมือถือหรือแทบเล็ตครับโดยแอพนั้น เราจะเห็นได้ในมือถือหรือแทบเล็ตที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android และ iOS
(ที่มา:http://www.manacomputers.com/what-is-app-how-different-software/)


แอปพลิเคชันที่ดิฉันใช้ก็จะมีหลายอย่างมาก ได้แก่

  • Facebook : ดิฉันจะใช้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆในห้อง เพราะว่า
    เรามีกลุ่มห้องกันอยู่ในแอปพลิเคชันนี้ ทำให้การติดต่อสื่อสารง่าย และสะดวก ไม่ต้องเสียตังค์ค่าโทรศัพท์ด้วย หรือบางทีถ้ามีงานกลุ่มก็สามารถแบ่งงานกันทำ และแยกกันทำได้โดยไม่ต้องนัดไปทำที่ใดที่หนึ่ง แล้วก็จะใช้ดูคลิปตลกๆ เฮฮา ไว้คลายเครียด      

  • Line : ใช้ติดต่อ โทรฟรี และวีดิโอคอล กับพ่อแม่ และเพื่อนๆ 

  • Instagram : ใช้ดูรูปสวยๆงามๆ เวลาเบื่อๆค่ะ












                 ตามจริงทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ และแอปพลิเคชั่นที่ใช้ยังมีมากกว่านี้ค่ะ ทั้งคอมพิวเตอร์ , โน๊ตบุ๊ค,เครื่องปรับอากาศ, พัดลม, Youtube และ Google แต่ถ้าจะให้เล่าให้ฟังทั้งหมดคงจะเยอะเกินไป ขอพูดโดยรวมๆนะคะ คือเราจะเห็นได้เลยค่ะว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับดิฉันเยอะมาก ทั้งๆที่บอกเล่าไม่หมด แต่การใช้แอปพลิเคชันต่างๆก็ต้องระวังนะคะ อาจจะมีมิจฉาชีพมาหลอกลวงเราก็ได้ ซึ่งถึงอันตรายยังไงมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราใช้ในทางที่ถูก และปลอดภัย ยังไงก็ดีค่ะ เพราะเทคโนโลยี ณ ปัจจุบัน ถือว่าทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้นเยอะเลย 


                 ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกัน มีอะไรก็สามารถติชมกันได้เลยค่ะ











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น